Custom Search

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พืชผักสมุนไพร

พืชผักสมุนไพร

ขิง

สรรพคุณ
        ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น ในทางยานิยมใช้ขิงแก่ เพราะขิงยิ่งแก่จะยิ่งเผ็ดร้อนและมีใยอาหารมาก        



วิธีใช้เป็นยารักษาโรค
        นำเหง้าสดย่างไฟให้สุก ตำผสมกับน้ำปูนใสคั้นเอาแต่น้ำดื่ม หรือนำเหง้าสดหมกไฟรับประทานเมื่อมีอาการเบื่ออาหาร        
        1. รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยนำขิง
แก่สด ประมาณ 2-3 เหง้า มาทุบพอแตกต้มกับน้ำ
        2. รักษาไข้หวัด โดยนำขิงแก่สด 7 กรัม
และขิงแห้ง 2 กรัม ต้มกับน้ำตาลทรายแดง ดื่ม
เพื่อรักษาอาการ หรือใช้ขิงแก่ 2-3 เหง้า นำมาทุบให้ละเอียดต้มกับน้ำอาบเพื่อขับเหงื่อ
ลดอาการไข้เนื่องจากหวัด                        
         3. รักษาอาการไอ ขับเสมหะ โดยนำขิง
สดมาคั้นน้ำให้ได้ประมาณครึ่งถ้วย ผสมน้ำผึ้ง
ประมาณ 1 ช้อนชา ต้มกับน้ำ 2 ถ้วย ดื่มวันละ 3 ครั้ง หรือใช้ขิงสดฝนกับมะนาวเติมเกลือเล็กน้อย
ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อยๆ
        4. รักษาอาการปวดประจำเดือน ในช่วง
ก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน โดยนำขิงแก่แห้ง
ประมาณ 30 กรัม ต้มกับน้ำดื่มบ่อยๆ
        5. แก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง โดยใช้ขิง
แห้งบดชงกับน้ำอุ่น ดื่มวันละ 1 ครั้ง
        6. รักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้หรือถูกน้ำ
ร้อนลวก โดยตำขิงสดให้ละเอียด นำกากมาพอก
ที่แผลเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ เป็นหนอง
        7. รักษาอาการปวดฟัน โดยนำขิงแก่ทุบ
ให้ละเอียด คั่วกับน้ำสารส้มจนเกรียม แล้วบดจน
เป็นผง พอกบริเวณฟันที่ปวด

 



ขมิ้น

 

 

 

 

 

สรรพคุณ : เหง้า ใช้รักษาแผลในลำไส้ เจริญอาหาร ขับลม คล้ายกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ที่เกร็งตัว บรรเทาอาการวิงเวียน ไม่สบายมีฤทธิ์ต้านวัณโรค ระงับเชื้อ รักษาโรคผิวหนัง แก้หวัด ผื่นคัน เป็นยาบำรุง รักษากลากเกลื้อน ระงับอาการชัก ขับปัสสาวะ ลดไข้ ฆ่าเชื้อพยาธิ ป้องกันโรคหนองใน อาการฟกช้ำ รักษาแผลสด แก้ท้องขึ้น บรรเทาอาการท้องขึ้น ทำให้ผายลม รักษาไข้ผอมเหลือง ไข้ท้องมาน รักษาพิษ เสมหะและโลหิต ใช้เป็นยาขัดฟัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาฟัน แก้หญิงที่ตกโลหิต รักษาโลหิตออกทางทวารหนักและโลหิต นอกจากจะใช้เดี่ยวๆ แล้วขมิ้นยังเป็นส่วยผสมของตำรับยาสมุนไพร รักษารคต่าง ๆ คือ เหง้าจะมีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว ใช้เป็นยาสมานแผลสดและแผลถลอก หรือใช้ผสมกับยานวดเพื่อเพื่อคลายเส้นยาคุมธาตุ รักษาเคล็ดขัดยอก รักษาชันนะตุในเด็ก บรรเทาอาการปวดฟัน และเหงือกบวม รักษาเคล็ดขัดยอก หรือน้ำกัดเท้า ส่วนในเหง้าขมิ้นนั้นจะมีสารสีเหลืองซึ่งเราเรียกว่า curcumin และ resin นอกจากนี้ยังมีน้ำมันระเหยประมาณ 5% ซึ่งประกอบด้วย borneol,camphene, zingerene,l.4cineol,sabinene และ phellandrene สารที่อยู่ภายใน หัวขมิ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการทดสอบกรดบอริก ที่มีในผงชูรสปลอก ใบ ใช้ผสมกับยานวดเพื่อคลายเส้น ใช้ผสมเป็นยาอายุวัฒนะ รักษามะเร็ง ริดสีดวงทวารปวดมวนรักษาซาง และฝีดาษ และชักอาการไข้ รักษาผมที่หงอก ผมร่วง ผมคัน รักษามุตกิด ท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาแผลโรคผิวหนังผื่นคันบำรุงผิว รักษาอาการท้องเดิน ปวดท้อง ธาตุพิการ อุจจาระเป็นมูกโลหิต ลดอาการบวม รักษาไข้ปวดหัวตัวร้อน สารพัดไข้ ปวดศีรษะ รักษากาฬ รักษาพิษสำแลง-ของแสลง รักษาฝี บิดตานทรวง ถ่ายท้อง ท้องเดิน ท้องร่วง ลดการขับปัสสาวะ รักษามูกโลหิต โลหิตเน่า ขับน้ำคาวปลา รักษาตานขโมย แมงเตียนกินรากผม เหา รังแค กษัย บำรุงโลหิต เจริญอาหาร ผสมกับยาต้มห้ามโลหิตจากทวารทั้ง 9 หรืออาเจียนเป็นโลหิต ผสมยารักษาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย บำรุงน้ำนม เป็นฝาโรคหนองใน เบาขัด รักษาอาการลมวิงเวียน โรคปวดในข้อ โรคเหน็บชา คลื่นเหียนจุกเสียดและลมขึ้นสูง โรคประสาทผสมยาทาฝี รักษาแผลเรื้อรังเน่าร้าย ผอมแห้งอยู่ไฟไม่ได้ โรคกุฏฐัง ทำน้ำนมสตรีให้บริสุทธิ์ ขับปัสสาวะในสตรี รักษาอาการปวดบวมท้องขึ้นลงท้องอันเกิดจากวาโยธาตุกำเริบ

 

พริก



                  

 

 

 

 

 

สรรพคุณ : ผล ใช้ปรุงรสอาหาร ช่วยเจริญอาหาร และรักษาอาการอาเจียน รักษาโรคหิด กลาก รักษาโรคบิด โดยการใช้พริกสด 1 เม็ด หรือมากกว่านั้นใช้กิน และอาการปวดบวมเนื่องจากความเย็นจัด โดยใช้ผงพริกแห้งทำเป็นขี้ผึ้ง หรือสารละลาย แอลกอฮอล์ใช้ทา

อื่น ๆ : พรรณไม้นี้เป็นพรรณไม้สวนครัวที่ขาด
กันไม่ได้ เป็นพรรณไม้ที่ขึ้นง่าย แต่บำรุงรักษายาก เพราะใบอ่อนของพริกอร่อย ทำให้แมลงต่าง ๆ ชอบกิน ผลแรกผลิใช้ผสมกับผักแกงเลียงช่วยชูรส ส่วนผลกลางแก่ใช้ใส่แกงคั่วส้ม จะได้อาหารที่มี
รสเปรี้ยวอ่อน ๆ เพราะมีวิตามีซี และไส้พริกจะมี
สารแคบไซซิน ที่ให้ความเผ็ดและมีกลิ่นฉุนเผ็ดร้อน เป็นเครื่องปรุงอาหารช่วยชูรส ใส่น้ำพริกยำ ทำเป็นน้ำปลาดองและยังเป็นยาช่วยกระตุ้นทำให
เจริญอาหาร บำรุงธาตุ หรือใช้ภายนอกเป็นยาทาถูนวดลดอาการไขข้ออักเสบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มะขาม
       



สรรพคุณ : เนื้อไม้ ใช้ทำเป็นเขียง
ที่มีคุณภาพดีมาก เพราะเป็นไม้ทีเหนียวทน
ใบแก่ มีรสเปรี้ยวฝาด ใช้นำมาปรุงเป็นยา
แก้ไอ แก้โรคบิด ขับเสมหะในลำไส้ หรือนำมาต้มผสมกับหัวหอมโกรกศีรษะ
เด็กในเวลาเช้ามืด แก้หวัดจมูกได้ หรือใช้น้ำที่ต้มให้สตรีหลังคลอดอาบ และใช้อบไอน้ำได้เป็นต้น                                                      
                    เนื้อในผล (มะขามเปียก) ใช้ผล
แก่ประมาณ 10-20 ฝัก นำมาจิ้มเกลือกิน
แล้วดื่มน้ำตามลงไป หรืออาจใช้ทำเป็น
น้ำมะขามคั้นเอาน้ำกิน เป็นยาแก้อาการ
ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ
ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดการกระหาย
น้ำ หรือใช้เนื้อมะขามผสมกับข่า และ
เกลือพอประมาณ รับประทานเป็นยาขับ
เลือดขับลม แก้สันนิบาตหน้าเพลิง หรือ
อาจใช้ผสมกับปูนแดง แล้วนำมาพอกหรือ
ทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อน หรือฝี
      

เมล็ดแก่ นำมาคั่วให้เกรียมแล้ว
กระเทาะเปลือกออกใช้ประมาณ 20-30 เม็ด นำมาแช่น้ำเกลือจนอ่อนใช้กินเป็นยาถ่าย
พยาธิไส้เดือนในท้องเด็กได้ หรือใช้เปลือก
นอกที่กระเทาะออก ซึ่งจะมีรสฝาดใช้กิน
เป็นยาแก้ท้องร่วง และแก้อาเจียนได้ดี
 

 

 

 

 

 

 



ตระไคร้
     

 

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น หัว ใบ ราก และต้น
     

สรรพคุณ : ทั้งต้น ใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหิวาตกโรค หรือทำเป็นยาทานวดก็ได้ และยังใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่นรักษาโรคได้ เช่น บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และขับเหงื่อ
     

หัว เป็นยารักษาเกลื้อน แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว บำรุงไฟธาตุ แก้อาการขัดเบา ถ้าใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะเป็นยาแก้อาเจียน แก้ทราง ยานอนหลับลดความดันสูง แก้ลมอัมพาต แก้กษัยเส้น และแก้ลมใบ ใบสด ๆ จะช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข
     

ราก ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ ปวดท้องและท้องเสีย
     

ต้น ใช้เป็นยาแก้ขับลม แก้เบื่ออาหาร แก้ผมแตก แก้โรคทางเดินปัสสาวะ นิ่ว เป็นยาบำรุงไฟธาตุให้เจริญ แต่ถ้าเอาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะแก้โรคหนองใน และนอกจากนี้ยังใช้ดับกลิ่นคาวด้วย
ตำรับยา : มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด นำเอาตะไคร้ที่มีลำต้นแก่ และสด ๆ มา ประมาณ 1 กำมือ ทุบให้แหลกพอดีแล้วนำไปต้มน้ำดื่ม หรืออีกวิธีหนึ่งเอาตะไคร้ทั้งต้นรากด้วยมาสัก 5 ต้นแล้วสับเป็นท่อนต้นกับเกลือ จากน้ำ 3 ส่วนให้เหลือเพียง 1 ส่วนแล้วทานสัก 3 วัน ๆ ละ 1 ถ้วยแก้วก็จะหาย

 



โหระพา
 

 

 

 

 

 

สรรพคุณ : ลำต้น ใช้ลำต้นสด ประมาณ 6-10 กรัม นำมาต้มเอาน้ำ กินเป็นยาแก้ปวด แก้หวัด ปวดกระเพาะอาหาร ท้องเสีย จุกเสียดแน่นท้อง ทำให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับลม ปวดศีรษะ ปวดข้อ หนองใน หรือใช้ตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทา หรือใช้พอกแผลฟกช้ำจากการหกล้ม หรือถูกกระทบกระแทก แผลที่เป็นหนองเรื้อรัง แก้พิษถูกงูกัด แมลงสัตว์กัดต่อย เป้นกลากเกลื้อน และใช้หยอดหูแก้ปวดหู เป็นต้น
     

เมล็ด ใช้เมล็ดแห้ง นำมาต้มหรือแช่น้ำกิน เป็นยาระบาย หรือใช้แก้โรคตาแดงมีขี้ตามาก และต้อตา เป็นต้น
     

ราก ใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาเผาไฟให้เป็นเถ้า บดให้ละเอียดใช้พอก บริเวณที่เป็นแผลเรื้อรัง แผลมีหนองในเด็ก

 

 

 

 



กระชาย

 

 

 

 

 

 

สรรพคุณ กระชายมีรสเผ็ดร้อน สารสำคัญในรากและเหง้ากระชายมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหารและแก้โรคในช่องปาก และเป็นยาอายุวัฒนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



มะนาว
 

 

 

 

 

 

 

สรรพคุณ : ใบ ใช้ใบสดประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกินใช้ เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเสีย ช่วยขับลม และทำให้เจริญอาหาร เป็นต้น
     

ผล ใช้ผลสด นำมาคั้นเอาน้ำกิน หรือกินสด เป็นยาแก้กระหาย แก้ร้อนใน บำรุงธาตุเจริญอาหาร แก้เลือดออกตามไรฟัน และถ่ายพยาธิ หรือใช้ผลดองเกลือ จนเป็นสีน้ำตาล ใช้เป็นยาขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ เป็นต้น
    

เปลือกผล ใช้เปลือกผลแห้ง ประมาณ 10-15 กรัม ต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้ปวดท้อง ขับเสมหะ บำรุงกระเพาะอาหาร ขับลม เป็นต้น
     

าก ใช้รากสด ประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้ฟกช้ำจากการถูกกระแทก หรือจากการหกล้มแก้ปวด และแก้พิษสุนัขบ้ากัด เป็นต้น

 

 

 

 

 

 



มะกรูด  
 

 

 

 

 

สรรพคุณ : ใบ ใช้ใบสด นำมาปรุงกับอาหารช่วยดับกลิ่นคาว       

ผล ใช้ผลสด นำมาประกอบอาหาร หรือนำมาดองใช้เป็นยาฟอกเลือดในสตรี ขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้ลมจุกเสียด แก้โรคลักปิดลักเปิด และใช้บำรุงประจำเดือน หรือใช้ผลสด นำมาผิงไฟให้เกรียมแล้ว ละลายให้เข้ากับน้ำผึ้ง ใช้ทาลิ้นให้เด็กที่เกิดใหม่ เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



แมงลัก
     

 

 

 

 

 

 

 

 

สรรพคุณ : ลำต้น ใช้ลำต้นสด
นำมาต้มเอาน้ำดื่ม เป็นยาแก้ไอ ขับเหงื่อ
ขับลม กระตุ้น และแก้โรคทางเดินอาหาร
เป็นต้น
    

ใบ ใช้ใบสด นำมาตำให้ละเอียดคั้น
เอาน้ำกิน เป็นยาแก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ แก้โรคท้องร่วง หรือใช้กากใบที่ตำทาแก้โรค
ผิวหนังทุกชนิด                      
      

เมล็ด ใช้เมล็ดแห้ง เมื่อนำมาแช่น้ำจะเกิดการพองตัวแล้วใช้กิน
เป็นยาระบาย ลดความอ้วน ช่วยดูดซึมน้ำตาลในเส้นเลือด ขับเหงื่อ และช่วยเพิ่มปริมาณของอุจจาระเป็น
เมือกลื่นในลำไส้ เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่า
 



 

 

 

 

 

 

 

 

สรรพคุณ
        1. ใช้เหง้าสดตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำปูนใส รับประทานครั้งละครึ่งแก้ว ช่วยขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเดิน และบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
        2. ใช้รักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนและแก้ลมพิษ โดยใช้เหง้าสดตำให้ละเอียดผสมกับ
เหล้าขาว ทาบริเวณที่เป็นบ่อยๆ จนกว่าจะดีขึ้น
       3.สารสกัดจากข่านำมาประกอบเป็นยารักษาโรคได้หลายชนิด เช่น ยารักษาแผลสด แก้โรคปวดบวมตามข้อ แก้โรคหลอดลมอักเสบ ยาธาตุและยาขับลม
       4.ใช้ไล่แมลงโดยนำเหง้ามาทุบหรือตำให้ละเอียด
เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมา แล้วนำไปวางในบริเวณ
ที่มีแมลง
        5. ผลข่ามีสรรพคุณคล้ายกับเหง้า คือ ใช้เป็นยาแกปวดท้อง ท้องร่วง ฆ่าเชื้อบิด และช่วยย่อยอาหาร ผงจากผลแห้งสามารถรักษาอาการปวดฟันได้ โดยนำไปบดและทาบริเวณที่ปวด

 

 

 

พริกไทย
    



 

 

 

 

 

สรรพคุณ : ผลและเมล็ด ใช้แห้งประมาณ 0.6-1.5 กรัม นำไปต้มน้ำกิน หรือทำเป็นยาเม็ด หรือยาผงกิน และใช้สำหรับภายนอก โดยการบดเป็นผง ใช้ผสมหรือทำเป็นครีมทาหรือพอก     

ผลและเมล็ดนั้นจะมีรสร้อน และฉุน ใช้เป็นยารักษาอาการปวดกระเพาะอาหาร โดยใช้ลูกพุทราจีนเอาเมล็ดออก แล้วใส่พริกไทยล่อน ใช้ด้ายพันให้ดี เพื่อไม่ให้เมล็ดพริกไทยออกมา นำไปนึ่งด้วยไอน้ำประมาณ 7 ครั้ง แล้วบดให้เป็นผง ปั้นเป็นเม็ดเท่าเม็ดถั่วเขียว ใช้กินกับน้ำอุ่น ครั้งละ 7 เม็ดกับน้ำอุ่น หลังจากที่กินยานี้แล้ว อาการปวดจะลดลง แต่กระเพาะอาหารจะร้อน และรู้สึกหิว รักษาโดยการกินข้าว หรือข้าวต้ม หลังจากที่กินยานี้รักษาอาการปวดตามบริเวณหัวใจ ปวดท้อง และอาเจียนเป็นน้ำ ให้ใช้พริกไทยดำ ดองกับเหล้า แล้วจิบกิน หรือจะต้มเป็นน้ำแกงกินมีลมในกระเพาะอาหาร มีอาการอาเจียนและเรอ อาจเป็นติดต่อกันหลายวัน ให้ใช้ผงพริกไทยล่อนประมาณ 1 กรัม ขิงสดประมาณ 30 กรัม นำไปปิ้งไฟอ่อน ๆ พอหอม นำไปต้มเอากากออก แล้วอุ่นกินวันละ 3 เวลา

 

 

 

 



สะระหน่     
 

 

 

 

 

 

สรรพคุณ
        สะระแหน่ มีฤทธิ์เย็นรสเผ็ด น้ำมันสาระแหน่ช่วยขจัดลมร้อน ใช้เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ ขับลม ขับเหงื่อ รักษาอาการหวัดลมร้อน ใช้ผสมยาหรือยาอมเพื่อให้เย็นชุ่มคอ        

1. รักษาอาการปวดศรีษะ ปวดฟัน เจ็บคอ เจ็บปาก เจ็บลิ้น โดยดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่ 5 กรัม       กับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย วันละ 2 ครั้ง
2. รักษาอาการบิดท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด โดยนำใบสะระแหน่ต้มดื่มแต่น้ำ
 3. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียด พอกบริเวณที่โดนกัด
 4. ช่วยห้ามเลือดกำเดาได้ โดยใช้สำลีชุบน้ำที่คั้นจากใบสะระแหน่ หยอดที่รูจมูก
 5. รักษาอาการปวดหู โดยนำน้ำคั้นจากใบสะระแหน่หยอดหู จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
 6. รักษาอาการหน้ามือตาลาย โดยรับประทานน้ำต้มใบสะระแหน่และขิงสด